แมวเบงกอล BENGAL นับว่าเป็นหนึ่งใน สายพันธุ์แมว ยอดนิยมในปัจจุบัน ด้วยลักษณะลวดลายที่สวยงามราวนักล่าอย่างเสือดาวเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่น นิสัยที่ทั้งน่ารักซุกซน ขี้เล่น ไม่ดุร้าย แต่กลับมีเสน่ห์ และน่าหลงใหลแตกต่างจากแมวทั่วไป จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่เหล่า ทาสแมว หลายคนต่างยกให้เป็นสัตว์เลี้ยงที่ควรค่าแก่การหามาเลี้ยงเป็นเพื่อนคู่ใจ
แนะนำ แมวเบงกอล รู้ให้ลึกก่อนตัดสินใจนำมาเลี้ยง
ก่อนจะตัดสินใจเลือก สัตว์เลี้ยง มาเลี้ยงไว้คลายเหงาสักตัว สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เพื่อประกอบการตัดสินใจเลยก็คือ การทำความรู้จักกับ สายพันธุ์สัตว์เลี้ยง ชนิดนั้นๆให้ดีเสียก่อน เพราะสัตว์เลี้ยงหนึ่งตัวมีชีวิตที่ยืนยาว วิธีการดูแล รวมถึงอุปนิสัยที่แตกต่างกัน เราจึงต้องศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนนำมาเลี้ยง
หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่สนใจอยากเลี้ยง แมวเบงกอล และกำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับ การเลี้ยงแมว สายพันธุ์นี้ ในบทความนี้เราก็ได้รวบรวมเอาความรู้ และเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับแมว เบงกอล มาแนะนำให้ได้รู้ทุกเรื่องอย่างครบครันแบบไม่มีกั๊ก
ประวัติแมวเบงกอล
แมวเบงกอล เกิดขึ้นครั้งแรกในรัฐอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ในปี 1970 โดยเกิดจากจากการทดลองผสม แมวข้ามสายพันธุ์ ของนักวิทยาศาสตร์ พวกเขาได้นำ แมวเสือดาวเอเชีย (ASIAN LEOPARD CAT) ซึ่งเป็นแมวข้างถนนในอินเดีย และแมวสายพันธุ์อียิปต์โบราณ (EPYPTIAN MAU) หรือแมวบ้าน มาผสมพันธุ์กัน
โดยการ ผสมพันธุ์แมว ในครั้งนี้ มีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มภูมิต้านทานต่อ โรคลิวคีเมียแมว ให้กับแมวบ้าน แต่แล้วการทดลองกลับล้มเหลวลงไป แต่การผสมพันธุ์แมวหลายชนิดเข้าด้วยกันทำให้ได้แมวที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นไม่เหมือนใคร และได้ตั้งชื่อสายพันธุ์นี้ว่า “เบงกอล” ตามชื่อวิทยาศาสตร์ของแมวป่า FELIS BENGALENSIS
ลักษณะแมวเบงกอล
สิ่งแรกที่พอสังเกตได้ด้วยตาเปล่า ลักษณะของ แมว เบงกอล เอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร คือ ขนสีเข้มเด่นชัด และลวดลายจุดคล้ายเสือดาวขนาดเท่าหัวแม่มือ สวยงามสะดุดตา ลายทางที่หน้าผากนั้นมีสีเข้มลากยาวตั้งแต่หางตาไปจนถึงใบหูกลมสั้น ตารูปไข่ของ แมว เบง กอล ส่วนใหญ่จะมีสีเขียว ทอง หรือสีเหลือง ห่อหุ้มด้วยขอบตาที่ดำสนิท รอบจมูกกลมโต
เมื่อโตเต็มวัย จะมีน้ำหนัก 5 – 9 กิโลกรัม และมีความสูง 13 – 16 นิ้ว ขนาดตัว และโครงสร้างใหญ่ มวลกล้ามเนื้อที่แข็งแรงนั้นคล้ายกับ แมวป่า แต่กลับมีรูปร่างผอมเพรียว และลำตัวยาวคล้าย แมวบ้าน ที่สำคัญแมวเบงกอลยังจัดว่าเป็นแมวที่มีอายุยืนได้ถึง 16 ปีเลยทีเดียว
นิสัยแมวเบงกอล
แม้ว่าหน้าตาของ แมว เบงกอล จะดูน่าเกรงขามคล้ายกับ สัตว์ป่าดุร้าย อย่างเสือ ทำให้หลายคนคิดกันว่า เบงกอล มีนิสัยดุร้ายตามไปด้วย แต่แท้จริงแล้ว นิสัยแมวเบงกอล น่ารัก ซุกซน ขี้เล่น ชอบปีนป่ายด้วยความคล่องแคล่วปราดเปรียว และอ้อนเก่งไม่ต่างจากแมวทั่วไป ทำให้หลายๆ คน ยอมจ่ายด้วยราคาสูง เพื่อนำแมวเบงกอลมาเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนคลายเหงา
เบงกอลมีนิสัยช่างพูดช่างคุย เสียงร้องของแมวเบงกอลมีหลากหลาย ตั้งแต่เสียงแหลมถึงเสียงต่ำคล้ายคลึงกับแมวป่า นอกจากนั้นเบงกอลยังเป็นอีกหนึ่ง สายพันธุ์แมว ที่ฉลาดมาก สามารถรับรู้ได้ถึงอารมณ์ความรู้สึกของผู้เลี้ยง และสามารถปรับพฤติกรรมให้เข้ากับการแสดงออกของมนุษย์ได้อย่างรวดเร็ว
สัญชาติญาณของแมวป่า ที่มีอยู่ในตัวแมวสายพันธุ์นี้ทำให้มีความกล้าหาญ มั่นใจ เป็นนักสำรวจที่ดี ชอบการผจญภัย และเก่งเรื่องเอาตัวรอด นี่จึงเป็นจุดเด่นทำให้แตกต่างจากสายพันธุ์อื่นๆ แถมยังชอบเล่นน้ำอีกด้วย
เลือกซื้อ แมวสายพันธุ์เบงกอล อย่างไรดี
การเลือก ซื้อลูกแมว มาเลี้ยงแต่ละตัว ต้องอาศัยหลายปัจจัยในการตัดสินใจ ไม่ใช่เพียงความชอบความน่ารักของแมวเพียงเท่านั้น หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่ต้องการเลือกซื้อ แมวเบงกอล เราขอแนะนำว่าควรเลือกแมวที่มีลักษณะโครงสร้างใหญ่ ลำตัวยาว หน้ากลม มีสีสัน และลวดลายที่เด่นชัดตลอดทั่วทั้งตัว
อีกหนึ่งปัจจัยที่ห้ามมองข้ามเลยก็คือ สุขภาพของแมว โดยแม่พันธุ์ พ่อพันธุ์แมวต้องมีสุขภาพที่ดี ปราศจากโรคติดต่อทางพันธุกรรม จึงควรเลือกซื้อแมวจากฟาร์มที่ดี และน่าเชื่อถือ ตรวจหาปัญหาสุขภาพของแมวที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เช่นดวงตาที่สดใส และน้ำหนักที่เหมาะสม ที่สำคัญก่อนรับแมวต้องผ่านการตรวจสุขภาพคัดกรองโรคจากสัตวแพทย์ ฉีดวัคซีน และถ่ายพยาธิเรียบร้อยแล้ว
ราคาแมวเบงกอล
สำหรับใครที่ต้องการ ซื้อแมวเบงกอล มาเลี้ยงเป็นเพื่อนคู่ใจ สิ่งที่ต้องเตรียมให้พร้อมนอกจากอาหารสูตรดีๆ ของใช้ ของเล่นมากมาย รวมถึงพื้นที่ในการเลี้ยงแมวเบงกอลแล้ว ต้องเตรียมเงินไว้เป็นจำนวนมาก ราคาของ แมวสายพันธุ์เบงกอล เริ่มต้นที่ 10,000 บาท ไปจนถึง 170,000 บาท เลยทีเดียว ซึ่งราคานี้ขึ้นอยู่กับสีขนที่เด่นชัด สุขภาพที่ดีของแมว และความพอใจของทั้งผู้ซื้อ และผู้ขาย รวมถึงปัจจัยอื่นๆอีกด้วย
วิธีการ เลี้ยงแมวเบงกอล ให้มีสุขภาพดี มีความสุข
แมวเบงกอล เลี้ยงไม่ยาก แต่ไม่เหมาะกับทาสแมวมือใหม่ที่ต้องการ เลี้ยงแมวตัวแรก เนื่องจากเป็นแมวที่แข็งแรง และว่องไว มีสัณชาตญาณสัตว์ป่าอยู่พอตัว ผู้ที่สนใจเลี้ยงแมวเบงกอลจึงต้องมีประสบการณ์ในการเลี้ยงแมวมาแล้วพอสมควร ในการเลี้ยงแมวเบงกอลต้องดูแลเอาใจใส่ เล่นด้วยบ่อยๆ และหมั่นฝึกฝน โดยสามารถใช้สายจูง ฝึกแมวเบงกอล ได้เหมือนสุนัข พาออกไปเดินเล่นได้
ด้วยความฉลาดแสนรู้ของแมวเบงกอล สามารถเรียนรู้เทคนิคต่างๆได้อย่างรวดเร็ว เช่นเทคนิคพื้นฐาน การสั่งให้นั่ง นอนลง หรือไฮว์ไฟว์ นอกจากนี้บางตัวยังเรียนรู้การเปิดปิดประตู และสวิตซ์ไฟได้เองอีกด้วย เหล่าทาสควรรู้ไว้ว่าแมวสายพันธุ์นี้ไม่ได้ชอบนอนเหมือนแมวทั่วไป เบงกอลต้องการพื้นที่ที่กว้างขวางในการเล่น และปีนป่าย ไม่เหมาะกับการ เลี้ยงแมวในหอพัก
อาหารแมวเบงกอล
อาหารแมวเบงกอล ไม่ได้แตกต่างจากอาหารแมวทั่วไปมากนัก เพียงแต่ต้องการอาหารที่มีโปรตีนสูงกว่าปกติเล็กน้อย จึงควรเพิ่มเนื้อสัตว์ให้รับประทานมากกว่าแมวทั่วไป เช่น การนำเนื้อวัวสดที่ไม่ผ่านการปรุงแต่ง สะอาด ถูกหลักอนามัย หรือทำ บาร์ฟแมว ให้ทานวันละครั้ง ประกอบกับไฟเบอร์ และวิตามิน ชอบกินน้ำมาก จึงควรเตรียมน้ำไว้ในปริมาณที่เหมาะสม แต่ห้ามนำเนื้อหมู หรือเนื้อไก่ให้ทานเด็ดขาด เพราะอาจทำให้แมวน้อยแสนรักท้องเสีย และเสียสุขภาพ
ปัญหาสุขภาพ โรคพันธุกรรมแมว ที่พบเจอได้บ่อยในแมวสายพันธุ์นี้
แมวเบงกอล มีสุขภาพที่ดีกว่าแมวสายพันธุ์อื่น เนื่องจากผ่านการผสมกันระหว่างแมวบ้าน กับแมวป่าที่มีภูมิต้านทานดี แต่ก็ยังมีปัญหา โรคประจำสายพันธุ์แมว หรือโรคพันธุกรรมที่ควรระวัง คือ โรคหัวใจ โรคระบบประสาท โรคระบบกระดูกเอ็น และข้อต่อ โรคระบบไหลเวียนโลหิต โรคต้อกระจก ฯลฯ ผู้เลี้ยงจึงควรหมั่นพาแมวไปตรวจสุขภาพกับสัตวแพทย์อยู่เสมอ และรับวัคซีนที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการเกิดโรคเหล่านี้อยู่เสมอ
ข้อควรระวังในการเลี้ยงแมวเบงกอล
ด้วยสัญชาตญาณนักล่าที่มีอยู่ในสายเลือด ทำให้มีความกระตือรือร้น และแข็งแรงมาก ด้วยพลังที่เหลือเฟือ หากปล่อยให้ แมว เบงกอล เกิดความรู้สึกเหงา หรือเบื่อขึ้นมา จะเลือกระบายอารมณ์เหล่านั้นด้วยการทำลายของใกล้ตัว สิ่งที่ต้องระวังเป็นพิเศษเลยก็คือ แมวสายพันธุ์เบงกอล มักจะตรวจพบโรคหัวใจอยู่บ่อยครั้ง และไม่ควรทิ้งอาหารไว้ข้ามคืน เพราะอาจเกิดแบคทีเรียที่ทำให้ แมวท้องเสีย
บทสรุป
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับความรู้ดีๆเกี่ยวกับ แมว เบงกอล แมวลายเสือดาวที่ทั้งน่ารัก และซุกซน ที่เราได้นำมาแนะนำให้ได้รู้จักกันในบทความนี้ หากใครสนใจแมวสายพันธุ์นี้แล้วละก็ ในประเทศไทยก็มีการนำเข้า แมวเบงกอล มาเพาะพันธุ์ขายกันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นที่ต้องการทั้งของคนไทย และต่างประเทศ
HESSENJAEGER ขอแนะนำให้เลือกฟาร์มที่สะอาด เชื่อถือได้ มีการฝึกฝนควบคุมพฤติกรรมของแมวที่ถ่ายทอดมาทางพันธุกรรม เช่น ความเชื่อง ความดุ ลวดลายที่เด่นชัด เป็นต้น
